10 อันดับ โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ ปี 2019 ที่ใช้งานง่ายและนิยมมากที่สุด

ปี 2019 นี้ถึงแม้ว่าการนำเสนอวิดีโอจะผ่านการไลฟ์สดผ่าน facebook หรือ youtube ที่ทั้งง่ายและได้รับความนำยมสุดๆในยุคนี้จึงทำให้การใช้งานโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ น้อยลงไปทุกทีแต่ถึงอย่างนั้นการนำเสนอเนื้อหาแบบกระชับก็ยังต้องใช้งานโปรแกรมตัดต่ออยู่ดีวันนี้ทาง 168asiatopten จะมานำเสนอกับ 10 อันดับ โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ ปี 2019 ที่ใช้งานง่ายและนิยมมากที่สุด

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ 2019

 

Adobe Premiere cs6
Adobe Premiere cs6

1.Adobe Premiere cs6

เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการตัดต่อภาพและเสียง ซึ่งตัวโปรแกรมเองมี
ความสามารถในการตกแต่งและตัดต่อภาพ-เสียง และ ใส่
Effect และ Transition ให้กบภาพและเสียง ที่สามารถใช้ได้ทั้งบนระบบ Windows และ Mac ที่ข้อดีคือสามารถใช้ร่วมกับโปรแกรมอื่นได้ เช่น Adobe After Effect และ Adobe Photoshop ซึ่งจะทำให้งานสามารถทำงานได้เร็วขึ้น
โปรแกรม Premiere เป็ นโปรแกรมที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท Adobe

ราคา: 600 บาท/เดือน

Adobe After Effect cs6
Adobe After Effect cs6

2.Adobe After Effect cs6

โปรแกรม After Effect คือ โปรแกรมที่ใช้ตัดต่องาน Video สามารถใช้ร่วมกับการทำงานกราฟฟิก 3D อนิเมชั่น และเพิ่มความน่าสนใจให้ภาพนิ่ง
นอกเหนือจากงานตัดต่อ Video ทั่วไป ความสามารถหลักๆของ After Effect คือการสร้างเอฟเฟ็กต์ต่างๆ ให้มีความสวยงามอลังการเสมือนจริง หรือเกินความเป็นจริงให้กับชิ้นงานนั้นๆ โดยภายในโปรแกรม After Effect เองจะมีเอฟเฟ็กต์ต่างๆให้เลือกใช่งานมากมาย เช่น ฟ้าผ่า ไฟพวยพุ่ง ระเบิด ควัน และ ลำแสงชนิดต่างๆ ฯลฯ
(ถึงแม้โปรแกรม After Effect จะมีเอฟเฟ็กต์มากมายให้เราเลือกใช้ แต่เราก็ไม่ควรที่จะใส่เอฟเฟ็กต์มากเกินความจำเป็น เพราะจะยิ่งทำให้การประมวลผลเพื่อ  Preview ดูผลลัพธ์ของงานใช้เวลานานมากขึ้นตามไปด้วย ด้วยเหตุนี้ After Effect จึงเหมาะกับงาน Video เอฟเฟ็กต์สั้นๆที่มีความยาวไม่กี่นาที)
ในปัจจุบันโปรแกรม After Effect กลายเป็นโปรแกรมสำคัญอีกตัวหนึ่งที่นักกราฟฟิคสมัยใหม่ทุกคนจำเป็นต้องศึกษาไว้ หลายๆ คนเมื่อมองภาพ Video โฆษณาต่างๆใน TV พวกเขามักคิดว่ามันคงเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ได้แบบนั้น  แต่เราอยากจะบอกว่า คุณกำลังคิดผิด After Effect ใช้งานได้ง่ายกว่าที่คุณคิดไว้มาก การทำงานของมันจะคล้ายๆกับโปรแกรม Photoshop ผสมกับโปรแกรม Flash คือ มีการแบ่งชั้นชิ้นงานออกเป็นแต่ละเลเยอร์ มีการบัง mask การเจาะรูปภาพ การตัดภาพ ฯลฯ
ความยากของโปรแกรม After Effect จริงๆ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการใช้งานเครื่องมือต่างๆ แต่ขึ้นอยู่กับจินตนาการของคุณมากกว่า ว่าคุณรู้จักนำเครื่องมือและเอฟเฟ็กต์ต่างๆมาประยุกต์ใช้ร่วมกันจนได้ชิ้นงานสวยงาม สมจริงมากแค่ไหน

 

VEGAS PRO 15
VEGAS PRO 15

3.Vegas 15

โปรแกรม Vegas Pro V.14 เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการตัดต่อล าดับภาพและเสียงและสามารถใส่เทคนิคพิเศษต่างๆให้กับภาพและเสียงได้ โดยมีวิธีการและขั้นตอนที่สะดวกในการท างาน เพียงคลิกเลือก กดค้าง แล้วลากมาวางใส่ในต าแหน่งคลิปที่ต้องการปรับแต่ง ทั้งภาพและเสียง และรองรับไฟล์ภาพเคลื่อนไหวที่มีรูปแบบ โค้ดรหัสที่ถูกพัฒนามาให้มีความคมชัดสูง และสามารถเผยแพร่ผ่านระบบ

เครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้อย่างรวดเร็วกว่าโปรแกรมใน เวอร์ชั่น 8,9,10,11,12,13, และในปี 2017 บริษัท Sony ได้ขาย โปรแกรม SonyVegas ให้ค่าย Magic รับไปพัฒนาต่อซึ่งในอนาคต คงจะมีรูปแบบแปลกใหม่ๆและทันสมัยกว่าเดิมให้ใช้ทดลองใช้ และสร้างสรรค์งานสื่อวีดิทัศน์ให้มี

ความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นระบบที่โปรแกรม Vegas Pro V.14 ต้องการในการติดตั้งเพื่อใช้งาน ในระบบปฏิบัติการ Windows 10 64 Bit

หน่วยความจ า Ram 8 Gb ระบบเก็บข้อมูล Hard disk ความจุ 250 Gb 7200 รอบ หรือระบบ Hard disk ระบบใหม่ SSD

 

Filmora Video Editor
Filmora Video Editor

 

4.Filmora Video Editor

โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ มากความสามารถ ที่เดิมทีมีชื่อว่า Wondershare Video Editor ภายหลังเปลี่ยนมาเป็น Wondershare Filmora Video Editor มีหน้าตาโปรแกรมที่เรียบง่าย สวยงามน่าใช้งาน Filmora เป็นโปรแกรมตัดต่อวีดีโอที่ใช้งานง่าย มีโหมดการใช้งานให้เลือกใช้ด้วยกัน 4 ระดับ ตั้งแต่โหมดง่ายๆ เพียงลากคลิป กดธีมที่ต้องการ ก็จะได้คลิปวีดีโอสำเร็จรูปมาให้ใช้งาน หรือจะเป็นโหมดโปรที่สามารถตัดต่อคลิปเป็นขั้นเป็นตอน จัดการเอฟเฟคต่างๆ รวมทั้งเสียงต่างๆ ก็สามารถทำได้อย่างอิสระ

ข้อดีคือ มีโหมดปรับแก้ความผิดพลาดจากเลนส์กล้อง เพื่อภาพที่สมบูรณ์ได้ ,มีโหมดให้ใช้งานสำหรับผู้เริ่มต้นไปจนถึงระดับกลาง ,เปลี่ยนสีของหน้า UI ได้เพื่อการใช้งานที่เข้ากับโทนสีของวีดีโอ ,โปรแกรมมีขนาดเล็ก ไม่กินทรัพยากรเครื่อง

ราคา: $29.99 หรือ 983฿ ต่อปี หรือ $49.99 แบบจ่ายครั้งเดียว หรือ 1,639฿

 

final cut pro 2019
final cut pro 2019

 

5.Final Cut Pro

สำหรับโปรแกรมนี้จะสามารถใช้โปรแกรมตัดต่อวิดีโอเครื่อง Mac เท่านั้นเรียกได้ว่าเกิดมาเพื่อ Mac อย่างเดียวเลยซึ่งนี่คือโปรแกรมตัดต่อขั้นเทพที่มีฟีเจอร์ครบที่สุดและเยอะมากๆซึ่งเคยมีการนำโปรแกรมนี้ไปตัดต่อในหนังดังหลายเรื่อง เช่น X-Man แต่การใช้งานอาจจะอยากไปหน่อยสำหรับมือใหม่และรองรับเฉพาะ ios เราจึงจัดไว้ในอันดับที่ 5 ส่วนราคาต้องบอกว่าแพงเอาเรื่องเลยทีเดียว

ราคา: $299.99

 

edtoe for mac iMovie
iMovie

 

6.iMovie

เป็นโปรแกรมตัดต่อที่เริ่มต้นผลิตโดยบริษัทแอปเปิ้ล สร้างเพื่อการใช้งานตัดต่อพื้นฐานบน Mac ซึ่งมีฟัเจอร์ให้ปรับแต่งตัวอักษร ใส่เพลง เร่งความเร็วภาพ ซึ่งเหมาะสำหรับมือใหม่สุดๆ และยังสามารถดาวน์โหลดมาใช้ได้ ฟรี!!

 

LightWorks Pro
LightWorks Pro

 

7.LightWorks Pro

เป็นโปรแกรมตัดต่อที่มีฟีเจอร์ครบครันอีกโปรแกรมหนึ่งซึ่งมีความน่าสนใจตรงที่ตัวทดลองใช้จะมีฟีเจอร์มาให้ เกือบเท่าตัวเต็มแบบซื้อขาด แต่จะเรนเดอร์วิดีโอไปที่ Vimeo กับ Youtube ได้เท่านั้นที่ความละเอียด 720p ส่วนในเรื่องของราคาต้องบอกว่าค่อนข้างแพงเกินไปถ้าเทียบกับค่ายดัง

ราคา: $24.99 ต่อเดือน หรือ 819฿ , $174.99 ต่อ 2 ปี หรือ 5,739฿ และ $437.99 หรือ 14,365฿ แบบจ่ายครั้งเดียว
 

อินเตอร์เน็ต True Gigatex Fiber 1 Gbps

อินเตอร์เน็ต True Gigatex Fiber 1 Gbps

 

Windows Movie Maker
Windows Movie Maker

 

8.Windows Movie Maker

เป็นโปรแกรมตัดต่อที่ใช้กันมายาวนานมากแล้วแต่ก็ยังมีคนใช้อยู่เป็นจำนวนมากเพราะมันคือโปรแกรมฟรี ที่สามารถใช้ตัดต่อแบบง่ายๆ เหมาะสำหรับหรับมือใหม่ที่จะเริ่มต้นหัดตัดต่อวิดีโอ ซึ่งโปรแกรมนี้สามารถใช้ได้บน Windows และ Linux โดยทั่วไปโปรแกรมมีความสามารถในการ ใส่ วิดีโอ ภาพ เสียง

 

Camtasia Studio
Camtasia Studio

 

9.Camtasia Studio

คือ โปรแกรมสำหรับผลิตสื่อการเรียนการสอนที่ดี และมีประสิทธิภาพโปรแกรมหนึ่ง ประกอบด้วยเครื่องมือในการทำงานต่างๆ อย่างครบถ้วน เช่น บันทึกภาพ และเสียงบนจอภาพ ดูวีดิโอ จัดการและสร้างไฟล์วิดิโอ สามารถตัดต่อ และสามารถบันทึกเป็นไฟล์รูปแบบต่างๆได้ เช่น Window Media Player, Real Player, Quick Time และ Animation Gif ตามต้องการ และจัดการด้านเสียงของไฟล์วีดิโอ

ราคา: $249 หรือ 8,167฿ ในการจ่ายแบบครั้งเดียว

 

nero video 2018
nero video 2018

 

10.Nero Video

เป็นโปรแกรมตัดต่อที่รองรับความละเอียดได้ถึงระดับ 4K มีเครื่องมือในการจัดการกับวีดีโอแบบครบครัน อาทิเช่น ฟีเจอร์การเคลื่อนไหวเอฟเฟคที่มากกว่า 50 แบบ, การสร้าง Layout และธีมให้เลือกมากกว่า 25 ธีมด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเทมเพลต รูปแบบการเคลื่อนไหว ภาพพื้นหลัง และเพลงประกอบ โปรแกรม Nero Video รองรับไฟล์วีดีโอหลากหลายนามสกุลแต่ไม่เป็นที่นิยมเท่าไหร่สำหรับนักตัดต่อเท่าไหร่นักด้วยเรื่องของหน้าตาที่ไม่ค่อยน่าใช่เท่าไหร่นัก

 

และนี่คือทั้งหมดที่พอจะให้คำแนะนำได้สำหรับ 10 โปรแกรมตัดต่อวิดีโอแนะนำ ประจำปี 2019 หวังว่าเพื่อนๆคงจะมีแนวทางที่ตัวเองชอบแล้วแต่ถึงคุณจะเป็นนักตัดต่อมือใหม่หรือ มีพื้นฐานมาบ้างแล้วสิ่งสำคัญที่จะทำให้ผลงานของคุณดีขึ้นคือต้องมั่นใช้งานตัดต่ออยู่สม่ำเสมอ

 

 

 

เรียบเรียงโดย: 168admin
 

ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (ขนมเเละเครื่องดื่ม) JSK

ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ

 

ติดต่อเราได้ที่นี่