ซูเปอร์คาร์ เป็นในความไฝ่ฝันของทุกคนที่ชื่นชอบเรื่องรถยนต์ ว่าอยากจะมีไว้ครอบครองไว้ขับเล่นซักคัน รถซุปเปอร์คาร์ มีเสน่ห์เย้ายวนใจ ด้วยรูปลักษณ์ที่สง่างาม สมรรถนะเป็นเริ่ด ทำให้มีมูลค่าสูงอย่างคาดไม่ถึง ซุปเปอร์คาร์ที่เร็วที่สุดในโลก จึงเป็นรถที่มีราคาแพง เพื่อแสดงถึงความร่ำรวยของเศรษฐี มาดู 10 อันดับ สุดยอด SuperCar รถที่เร็วที่สุดในโลก ความหรูหรา ราคาแพง
ภาพรวมหัวข้อเนื้อหา
1. Hennessey Venom F5
Hennessey Venom F5 ใช้เครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ V8 ขนาด 7.4 ลิตร จับคู่กับระบบส่งกำลัง Single Clutch Paddle Shift Transmission 7 สปีด สามารถคัดม้าฝูงใหญ่ออกมาวิ่งเล่นได้ถึง 1,600 ตัว เร่งความเร็วจากจุดหยุดนิ่ง 0 ถึง 300 กม./ชม. น้อยกว่า 10 วินาที เร็วกว่ารถแข่งสูตร 1 ในปัจจุบันซะอีก และยังทำความเร็วจาก 0 ถึง 400 กม./ชม. ได้ต่ำกว่า 30 วินาที
- สนนราคาอยู่ที่ 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราวๆ 50 ล้านบาท
2. Bugatti Chiron
ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ W16 ควอดคอร์ 8.0 ลิตรที่ให้กำลังสูงสุด 1500PS และแรงบิด 1600Nm Chiron สามารถวิ่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 2.5 วินาที กำลังถูกส่งไปยังทั้งสี่ล้อโดยระบบ Haldex All-Wheel-Drive และความเร็วสูงสุดของ Chiron จำกัด ที่ 420kmph
- มีค่าตัว 3,000,000 USD หรือประมาณ 99,750,000 บาท ราคานี้ยังไม่รวมค่าภาษีของประเทศไทย
3. Koenigsegg Agera RS
Koengisegg Agera R ที่มีเครื่องยนต์ 5.0 ลิตร V8 ผลิตพลังได้ 1,380 แรงม้า ทดสอบแล้วสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 457 กิโลเมตร/ชั่วโมง และทำค่าเฉลี่ยในการวิ่งได้ที่ 447.2 กิโลเมตร/ชั่วโมง
- ราคาประมาณ 1,600,000 เหรียญฯ หรือตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 171 ล้านบาท
4. Koenigsegg Agera ONE1
โดยมาพร้อมเครื่องยนต์ V8 ขนาด 5,000 ซีซี ให้กำลังกว่า 1,341 แรงม้า หรือ 1 เมกะวัตต์ แรงบิด 1,371 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์คลัชคู่ 7 สปีด ซึ่งเมื่อเทียบกับน้ำหนักรถ 1,341 กิโลกรัม จะทำให้เครื่องยนต์รับภาระ 1 แรงม้าต่อ 1 กิโลกรัม
- ราคาคาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 2 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 65 ล้านบาท)
5. Hennessey Venom GT
เฮนเนสซี เวนอม จีที เป็นรถที่นำพื้นฐานโครงสร้างมาจาก โลตัส เอ็กซีก (Lotus Exige) มีน้ำหนักตัวถัง 1,244 กก. ตัวถังใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ระบบขับเคลื่อนจัดเครื่องยนต์อะลูมิเนียมขนาด 7,000 ซีซี เทอร์โบชาร์จคู่ มีกำลังสูงสุด 1,244 แรงม้า แรงบิด 1,566 นิวตันเมตร มีอัตราเร่งแรงที่สุดในโลกอย่างไม่เป็นทางการที่ความเร็ว 0-300 กม./ชม. ภายใน 14.5 วินาที
- ราคาเริ่มต้น 600,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 19.5 ล้านบาท)
6. Bugatti Veyron Grand Sport Vitesse La Finale
เครื่องยนต์ 6 สูบนอน ขนาดความจุ 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ วางลงตรงกลางลำด้านท้าย (Mid-Rear engine) บนโครงสร้างที่ทำจากท่ออะลูมิเนียมน้ำหนักเบาและครอบด้วยตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ ทำให้ Fenyr Supersport มีกำลังสูงสุดที่ 900 แรงม้า และแรงบิด 1200 นิวตันเมตร ซึ่งกระโจนออกล่าเหยื่อบนถนนจาก 0-100 กม./ชม. ด้วยเวลาที่ต่ำกว่า 2.7 วินาที ในขณะที่สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 400 กม./ชม
- ราคาอยู่ประมาณ 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทย ก็คงจะเกิน 60 ล้านบาท
7. Koenigsegg Regera
ด้วยเครื่องยนต์ V8 ขนาด 5.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ วางตามยาวกลางลำให้กำลัง 1,100 แรงม้า ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าอีก 2 ตัว โดยตัวแรกวางอยู่หน้าเครื่อง ให้กำลัง 215 แรงม้า ส่วนมอเตอร์อีก 1 ตัวอยู่ที่เพลาหลังให้กำลัง 240 แรงม้า ซึ่ง Koenigsegg เรียกระบบนี้ว่า Direct Drive ส่งผลให้มีพละกำลังรวมกันทั้งหมด 1,555 แรงม้า และแรงบิด 2,000 นิวตันเมตร
- ราคาประมาณ 2 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 65 ล้านบาท)
8. Lykan Fenyr SuperSport
ขนาด 3.8 ลิตรแบบคู่ที่ให้กำลัง 780 แรงม้าและแรงบิด 708 ปอนด์ฟุต มันติดตั้งตรงกลางและหมุนล้อหลังด้วยระบบส่งกำลังคลัตช์คู่ความเร็ว 7 ระดับ หมายเหตุแนวคิดดั้งเดิมของ Fenyr Supersport สัญญาไว้ที่ 900 แรงม้า
- ราคาอยู่ประมาณ 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทย ก็คงจะเกิน 60 ล้านบาท
9. Zenvo TS1 GT
เครื่องยนต์เบนซินวี8 ขนาด 5.9 ลิตร เทอร์โบคู่ แต่ในส่วนของพลังแรงม้าสูงสุด และแรงบิดสูงสุดยังไมม่มีการเปิดเผยแต่อย่างใด แต่ทาง เซ็นโว เครมว่า เจ้า ทีเอส1 คันนี้สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 375 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- ราคา 877,040 เหรียญสหรัฐ
10. Pagani Huayra Roadster
เครื่องยนต์รุ่นอัพเกรด เบนซิน V12 รหัส M158 ของ Mercedes-AMG ความจุ 6.0 ลิตร กำลังสูงสุดผลิตได้ 754 แรงม้า (+ราว 15HP) ที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดมากกว่า 101 กก.-ม. เริ่มที่ 2,400 รอบ/นาที พากานีระบุว่าเครื่องยนต์บล็อคนี้ผลิตขึ้นมาเฉพาะรุ่น ไม่มีใช้งานในรถรุ่นใดของ Mercedes-AMG ด้านระบบส่งกำลังใช้บริการเกียร์ของ Xtrac แบบกึ่งอัตโนมัติ 7 จังหวะลูกเดียวกับที่ใช้ใน Huayra BC ระบบขับเคลื่อนเป็นแบบล้อหลัง มีดิฟฯ ไฟฟ้าให้ใช้งาน โหมดในการขับเลือกได้ 5 แบบ Wet, Comfort, Sport, Race และ ESC Off
- ราคาเริ่มที่ 2,280,000 ยูโร หรือประมาณ 84.6 ล้านบาท
เป็นอย่างไรกันบ้างกับกองทัพรถสปอร์ต ที่ราคาแพง ใครที่รักในความเร็วแรงกันบ้าง ซึ่งเราก็หวังว่าบทความนี้จะช่วยกระตุ้นความอยากให้คุณได้กลับไปทำงานเพื่อเก็บเงิน รอวันถอยรถสปอร์ตคันโปรดให้ได้ในเร็ววัน เราเป็นกำลังใจให้นะค่ะ
