แนะนำ 10 สถานที่ท่องเที่ยวหน้าฝน ถ้าไม่ไปถือว่าพลาด

ในยุคที่ทุกคนต้องการหาพื้นที่สโลว์ไลฟ์ หนีความวุ่นวายเมืองกรุงต้องการชีวิตเรียบง่าย ไม่แปลกที่ต้องการหาสถานที่ท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์การชาร์จแบตให้กับตัวเอง แต่นี้จะเข้าฤดูฝนแล้ว จะไปเที่ยวไหนน้าฝนจะมีสถานที่เที่ยวตรงไหน บอกเลยว่าหน้าฝนดอกไม้จะสวยเป็นอย่างมากบรรยากาศยามเช้าจะดีเป็นที่สุด และถ้าคุณไม่รู้ว่าหน้าฝนจะออกไปเที่ยวที่ไหนดี ในบทความต่อไปนี้เราจะขอนำเสนอ สถานที่น่าเที่ยวหน้าฝนกันค่ะ

ภาพรวมหัวข้อเนื้อหา

สถานที่ท่องเที่ยวหน้าฝน ที่หน้าฝนนี้คุณต้องหาเวลาไปให้ได้

สถานที่ท่องเที่ยวหน้าฝน ที่หน้าฝนนี้คุณต้องหาเวลาไปให้ได้

1. นาบัว คลองมหาสวัสดิ์ จ.นครปฐม

สัมผัสวิถีชีวิตของผู้คนริมคลอง ชาวบ้านบริเวณนี้ทำนาบัว ปลูกดอกบัวขายส่งไปทั่วประเทศ บบัวจะปกคลุมไปทั่วผืนน้ำนช่วงเดือนพฤษภาคม จะเป็นช่วงที่สวยที่สุด และช่วงในเวลาตอนเช้าคือช่วงที่เหมาะสมในการชมมมากที่สุด

สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถขึ้นเรือได้ที่ ท่าน้ำวัดสุวรรณาราม โดยค่าเรือนั้นคิดราคาแบบเหมาลำ ลำละ 350 บาท นั่งได้ไม่เกิน 6 คน

2. อุทยานน้ำหนาวแห่งชาติ จ.เพชรบูรณ์

หากมครเคยสัมผัสอากาศที่นี่แล้วต้องคิดถึงแน่นอนเลย สำหรับอากาศบนภูเขาที่มีลมหนาวกระทบผิวกายของเรา ดาวบนดินที่มองเห็นเป็นแสงประะกาย ชมพระอาทตย์ตกนตอนเย็น ในอุทยานแห่งชาติน้ำหนาวมีน้ำตกให้นักท่องเที่ยวได้ชมด้วย สำรวจคนที่ต้องการไปชธรรมชาติที่น้ำหนาว

ติดต่อสถานที่พักได้ที่ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ 67260 โทรศัพท์ 056-810 724 ,081-962-6236

3. เขื่อนเชี่ยวหลาน จ.สุราษฎร์ธานี

ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวต้น ๆ สำหรับเมืองไทย ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติของป่าเขาและสายน้ำที่งดงามเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่พักผ่อนหย่อนใจได้ดีมาก ๆ สำหรับคนที่ชอบความเงียบสงบ มีทั้งที่พัก เรือแพ ละเรือพายบริการแนะนำให้โทรจองเรือก่อนนะคะ

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่อุทยานแห่งชาติเขาสก โทรศัพท์ 0 7739 5139, 0 7739 5154-5 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุราษฎร์ธานี โทรศัพท์ 0 7728 8818-9

4. น้ำตกก้อหลวง จ.ลำพูน

น้ำตกที่มีความสวยงามตระการตา น้ำตกสีเขียวอมเขียว ให้ความสดชื่น เย็นสบาย น้ำตกก้อหลวงเป็นน้ำตกที่ไม่เล็ก ไม่ใหญ่ แต่ถ้าใครได้มีโอกาสได้ไปรับรองต้องติดใจแน่นอนสีของน้ำตกจะเปลื่ยนตามฤดูกาล ฤดูหนาวน้ำจะเป็นสีเขียวมรกต, ฤดูร้อน น้ำจะเป็นสีฟ้าคราม, ฤดูฝน น้ำจะสีขุ่นน้ำหลาก ากใครต้องการที่จะไปนอนพักติดต่อเจ้าหน้าที่ได้

ติดต่อที่พัก นอนเต๊นท์ 0613753500

5. เกาะช้าง จ.ตราด

ไม่ว่าจะเป็นฤดูฝน ฤดูหนาว ฤดูร้อน เกาะที่เป็นที่ขึ้นชื่อทางตะวันออก ที่เห็นทะเลสวย ๆ หาดทรายขาวละเอียดเป็นสถานที่ยอดฮิตที่ติดอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย เกาะช้างเป็นเกาะรองลงมาจากเกาะภูเก็ตที่มีเกาะให้เที่ยวมากกว่า 52 เกาะ สำหรับที่พักของเกาะช้างนั้นมีให้เลือกหลายหลายไม่ว่าจะเป็นโรงแรม รีสอร์ท บังกะโล หรือจะเป็นบ้านพักแบบธรรมดา ๆ ราคาประหยัด

สอบถามรายละเอียดที่พักเกาะช้างได้ที่ ส่วนอุทยานแห่งชาติทางทะเล
สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กรมป่าไม้ ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
โทรศัพท์ 02 561 0777 ต่อ 1711
ติดต่อที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง บ้านหินตาบ๋อย ตำบลแหลมงอบ อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด 23120 โทรศัพท์ 039 510 928

6. ดอยค้ำฟ้า เชียงใหม่

ดอยค้ำฟ้าเป็นสถานที่ที่หนึ่งไม่ค่อยได้โปรโมท ไม่มีป้ายบอกสถานที่ท่องเที่ยวอะไร เป็นสถานที่ที่อยู่ในเขตต้นน้ำส่วนใหญ่เป็นที่อนุรักษ์ไม่มีความสะดวกสบายอะไรมากมาย เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนจากการเหนื่อยล้าจริง ๆ ในยามเช้าสามารถมองเห็นวิวที่สวยงามในยามเย็นก็พบกับช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ตก

สำหรับผู้ที่สนใจไปดอยค้ำฟ้า สามารถโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ได้
โทร. 081 992 7346

7. หมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา

ใครที่ชอบการดำน้ำ ดูปากะรังที่มีหลากหลายสี หมู่เกาะสุรินทร์ที่มีน้ำใส ทรายเนียนนุ่ม คนที่ชอบสายทะเลต้องลองไปสัมผัสและเห้นความสวยงามของหมู่เกาะสุรินทร์นี้สักครั้งหมู่เกาะสุรินทร์จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม – 15 พฤษภาคมของทุกปี

8. ชมโลมาสีชมพู หาดขนอม จ.นครศรีธรรมราช

การได้ท่องเที่ยวชมโลมาที่ทะเลขนอมเป็นประสบการณ์ที่หาจากที่อื่นม่ได้เลยในประเทศไทย มีโลมาสีชมพูอยู่ประมาณ 50 ตัวที่เรียกกันว่าขาวเทา หรือ โลมาหลังโหนก ลักษณะเด่นของโลมาสีชมพู คือ ในตอนเกิดจะมีสีเทาเหมือนโลมาททั่วไปแต่เมื่ออายุมากขึ้นจะมีสีขาวเผือกหรือสีชมพู นักท่องเที่นวส่วนมากท่องเที่ยวชมในตอนเช้า โดยจะมีโอกาสในการพบโลมาสีชมพูและโลมาสีเทาในระยะใกล้ ๆ

9. ป่าต้นน้ำ บ้านน้ำราด จ.สุราษฎร์ธานี

เป็นแหล่งท่องเที่นวที่ความเป็นธรรมชาติหลากหลาย เป็นสถานที่ยอดฮิต้วยความใสของน้ำให้มีความน่าเที่ยวป่าต้นน้ำ น้ำราดเป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนแห่งใหม่ได้ค้นพบต้นน้ำลำธารเล็ก ๆ น้ำใสมาก ๆ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ

10. ฤดูชมผีเสื้อ แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

เทศกาลดูผีเสื้อแก่งกระจาน จะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนเม.ย. – มิ.ย. ของทุกปี ผีเสื้อที่อุทยานมมากกว่า 250 ชนิด เป็นช่วงที่พบผีเสื้อมากที่สุดและพบกับผีเสื้อในจำนวนมากชนิดที่สุด คือช่วง 1-30 เมษยนของทุกปีจุดอุทยานแก่งกระจานสามารมองเห็นผูงผีเสื้อที่บินไปมานับพัน การดูผีเสื้อที่แก่งกระจานสามารถดูได้ทั้งวันเพราะผีเสื้อต่างชนิดกันออกหากินในเวลาที่ต่างกันแต่ทั้งนี้ก่อนการเดินทาง

สอบถามรายละเอียดจากเจ้าหน้าที่ก่อน อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โทร. 0 3245 9293

แต่ละสถานที่น่าไปทั้งนั้นเลยใช่ไหมค่ะ ในความเป็นธรรมชาติของสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่นั้นเกิดขึ้นมาจากธรรมชาติบ้างหรือบางสถานที่ีการดัดแปลงจากชาวบ้านสำหรับผู้ที่ต้องการไปท่องเที่ยวนั้นควรรักษาอนุรักษ์ธรรมชาติบ้านเราไว้ให้คงความสวยงามไปยาวนาน สำหรับก่อนหน้าฝนนี้ใครมีวันหยุดติดต่อกันบ้าง ก่อนไปอย่าลืมหาข้อมูลการเดินทางดี ๆ นะคะ