10 อันดับมนุษย์ที่มีไอคิว (iQ) สูงที่สุดในโลก

บุคคลที่มีไอคิวสูงที่สุดในโลก

ไอคิว คือ ความฉลาดทางเชาว์ปัญญา โดยเฉพาะในเรื่องการคิด ความจำการใช้เหตุผล การคำนวณ และการเชื่อมโยง ซึ่งเป็นศักยภาพหรือความสามารถทางสมองที่แต่ละบุคคลมีติดตัวมาตั้งแต่กำเนิดโดยถูกกำหนดจากพันธุกรรม ซึ่งสิ่งที่ 168asiatopten จะนำเสนอคือ 10 อันดับมนุษย์ที่มีไอคิวสูงที่สุดในโลก

Gottfried Leibniz (กอทท์ฟรีด วิลเฮล์ม ไลบ์นิซ)
Gottfried Leibniz (กอทท์ฟรีด วิลเฮล์ม ไลบ์นิซ)

10. อันดับมนุษย์ที่มีไอคิว (iQ) สูงที่สุดในโลก

เกิดวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 1646 (พ.ศ. 2189) ในเมืองไลป์ซิก ประเทศเยอรมนี เป็นนักปรัชญา, นักวิทยาศาสตร์, นักคณิตศาสตร์, นักการทูต, บรรณารักษ์ และ นักกฎหมาย ชาวเยอรมันเชื้อสายเซิบ 

เขาคือบุคคลที่ริเริ่มในการใช้ฟังชั่นเพื่ออธิบายปริมาณของเส้นโค้งเป็นแม่บทของกฎสูตรคูณจนได้บัญญัติฟังชั่นในปี พ.ศ. 2237 เพื่ออธิบายปริมาณที่เกี่ยวข้องกับเส้นโค้ง สันนิษฐานกันว่า นิวตัน คือผู้ค้นพบแนวคิดเกี่ยวกับแคลคูลัส แต่ “ไลบ์นิซ” เป็นผู้ที่เผยแพร่แคลคูลัส ดังนั้น ไลบ์นิซและนิวตันจึงได้รับการยกย่องร่วมกันว่าเป็นผู้เริ่มพัฒนา แคลคูลัส

Nicolaus Copernicus (นิโคเลาส์ โคเปอร์นิคัส)
Nicolaus Copernicus (นิโคเลาส์ โคเปอร์นิคัส)

9. Nicolaus Copernicus (นิโคเลาส์ โคเปอร์นิคัส) ไอคิว(IQ) 160 ถึง 200

วันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1473 ที่เมืองตูรัน (Torun) ประเทศโปแลนด์ (Poland) เป็นนักดาราศาสตร์ชาวโปแลนด์ ที่อาจจะมีชื่อเสียงไม่โด่งดังเท่ากับนักดาราศาสตร์อย่างกาลิเลโอ แต่ผลงาน และทฤษฎีต่าง ๆ ของเขา เช่น ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของสุริยจักรวาล โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์และหมุนรอบตัวเอง เป็นต้น เขาจากโลกนี้ไปอย่างสงบเมื่อ วันที่ 24 พฤษภาคม ค.ศ. 1543 ซึ่งผลงานของเขาคือ ตั้งทฤษฎีโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ (Copernicus Theory) โดยทฤษฎีนี้กล่าวว่า ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง ของสุริยจักรวาล โลก ดาวเคราะห์อื่น ๆ ต้องหมุนรอบดวงอาทิตย์ และโลกมีสัณฐานเป็นทรงกลม

Thomas Young (โทมัส ยัง)
Thomas Young (โทมัส ยัง)

8. Thomas Young (โทมัส ยัง)ไอคิว (IQ) 185 ถึง 200

เขาเกิดในปี ค.ศ. 1773 ที่เมืองมิลเวอร์ตัน ประเทศอังกฤษ เขามีความเฉลียวฉลาดตั้งแต่วัยเด็ก เขาเรียนด้านภาษาศาสตร์จนแตกฉาน เขาสอบเข้าเรียนแพทย์ได้ที่โรงเรียนแพทย์ และไปเรียนแพทย์ต่อที่มหาวิทยาลัยเอดินเบิร์ก ในสก็อตแลนด์ มหาวิทยาลัยก็อตตินเจน ในเยอรมัน และมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ในอังกฤษ จนสำเร็จในปี ค.ศ. 1800

ในขณะที่เรียนอยู่นั้นเขาได้ทำการทดลองหลาย ๆ เรื่อง เนื่องจากเขามีความสนใจในเรื่องเกี่ยวกับนัยน์ตา และการมองเห็น จึงจุดประกายให้เขาศึกษาค้นคว้าในเรื่อง “ธรรมชาติของแสง” อย่างละเอียด ทั้งจากหนังสือของฮอยเกนส์ และของนิวตัน โดยพิจารณาจากคลื่นน้ำในทะเลสาบและนำมาปรับใช้กับเรื่องของแสง โดยเจาะรู 2 รู ใกล้ ๆ กัน ที่แผ่นกระดาษแล้วให้แสงส่องผ่านแผ่นกระดาษนั้น ทำให้เกิดแสงจากแหล่ง 2 แหล่ง พบว่า ณ บริเวณที่แสงจาก 2 แหล่ง นี้มารวมกันเกิดความสว่างมากขึ้น เขาจึงสรุปได้ว่าแสงเป็นคลื่น

ในปี ค.ศ. 1802 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นศาสตร์จารย์ และเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศของราชสมาคมและได้เขียนหนังสือเรื่อง “Natural Philosophy and the Mechanical Art” มีเนื้อหาเกี่ยวกับทฤษฎีของแสง และงานค้นคว้า เรื่องสี เขาได้ให้สูตรเกี่ยวกับแม่สี ทั้ง 3 สี คือสีแดง สีเหลือง และสีน้ำเงิน ไว้เป็นทฤษฎีที่ใช้มาจนถึงปัจจุบัน เขาเสียชีวิตที่กรุงลอนดอน ในปี ค.ศ. 1829

Isaac Newton (ไอแซก นิวตัน)
Isaac Newton (ไอแซก นิวตัน)

7. Isaac Newton (ไอแซก นิวตัน) ไอคิว (IQ) 190 ถึง 200

เกิดเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ 1642 ที่ลินคอล์นเชียร์ อังกฤษ เขาได้สังเกตการหล่นของผลแอปเปิ้ล ที่ให้เขาได้ความคิดเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วง ซึ่งเป็นแรงดึงดูดทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกและเป็นแรงที่ทำให้ โลก ดวงจันทร์ ดาวเคราะห์ และต่างๆ อยู่ในระบบสุริยะ เขาคือ นักคณิตศาสตร์ นักฟิสิกส์ นักดาราศาสตร์ นักเล่นแร่แปรธาตุ นักปรัชญา และนักเทววิทยาชาวอังกฤษ ผู้เสนอกฏแรงโน้มถ่วงของโลก คนที่ไปมองเห็นสีของรุ้งกินน้ำในท้องฟ้า แต่นิวตันรู้และสามารถพิสูจน์ได้ว่า แสงที่เราเห็นว่า ไม่มีสีหรือที่เรียกว่ามีสีขาวเกิดจากสีรุ้งนั่นเอง

 เขาได้สร้างกล้องโทรทรรศน์แบบใหม่ แบบมีตัวสะท้อนแสง แล้วกล้องโทรทรรศน์นี้ ทำให้เขามีชื่อเสียงและได้รับเชิญให้เข้าร่วมในราชสมาคมชั้นนำของนักวิทยา ศาสตร์ในประเทศอังกฤษ ไอแซคนิวตัน ถึ่งแก่กรรมเมื่ออายุได้ 84 ปี และถูกฝังในสุสานวิหารเวสมินสเตอร์ ซึ่งในปัจุบันนี้มีอนุสาวรีย์ของเขาตั้งอ่ยู่ แม้ว่ามทุกคนจะระลึกถึงเขาว่าเป็น บุคคลสำคัญคนหนี่ง แต่ตัวเขาเคยพูดว่า ฉันมองได้ไกลกว่าคนส่วนใหญ่ก็เพราะฉันยืนอยู่บนไหล่ของยักษ์

James Maxwell (เจมส์ เคลิร์ก แมกซ์เวลล์)
James Maxwell (เจมส์ เคลิร์ก แมกซ์เวลล์)

6. James Maxwell (เจมส์ เคลิร์ก แมกซ์เวลล์) :ไอคิว (IQ) 190 ถึง 205

เกิดเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1831 ที่เอดินเบิร์ก ประเทศสก็อตแลนด์ เขาอยู่ในตระกูลที่สูงส่งและมีชื่อเสียง แมกเวลได้เข้าเรียนต่อวิชาคณิตศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (Cambidge University) จบการศึกษาด้วยปริญญาเกียรตินิยมอันดับ1หลังจากนั้นเขาได้ทำงานในตำแหน่งศาสตราจารย์

วิชาปรัชญาธรรมชาติที่วิทยาลัยมาริสคาล (Marischal College) ที่กรุงอะเบอร์ดีน (Aberdeen) ซึ่งผลงานของเขาคือ

  • ทฤษฎีพลังงานจลน์ของความร้อน (Kinetic Theory of Heat)
  • ทฤษฎีพลังงานจลน์ของก๊าซ (Kinetic Theory of Gas)
  • ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
  • แมกซ์เวลล์ เสียชีวิต วันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1879 ที่เคมบริดจ์ (Cambridge) ประเทศอังกฤษ (England)
Rudolf Clausius (รูดอล์ฟ เคลาซิอุส)
Rudolf Clausius (รูดอล์ฟ เคลาซิอุส)

5. Rudolf Clausius (รูดอล์ฟ เคลาซิอุส) ไอคิว(IQ) 190 ถึง 205

เกิดเมื่อ 2 มกราคม ค.ศ. 1822 รูดอล์ฟ เคลาซิอุส ริเริ่มแนวคิดเรื่องเอนโทรปี (Entropy) ซึ่งสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนากฎข้อสองของเทอร์โมไดนามิกส์ และ กลศาสตร์เชิงสถิติ เป็นนักฟิสิกส์และนักคณิตศาสตร์ชาติเยอรมัน

Leonardo da Vinci (เลโอนาร์โด ดา วินชี)
Leonardo da Vinci (เลโอนาร์โด ดา วินชี)

4. Leonardo da Vinci (เลโอนาร์โด ดา วินชี) ไอคิว(IQ) 180 ถึง 220

วันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1452 ที่แคว้นทัสคานี (Tuscany) เมืองวินชี (Vinci) ประเทศอิตาลี (Italy) เลโอนาร์โดไม่ได้เป็นเพียงจิตรกรเอกของโลกเท่านั้น เขายังมีความสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์หลายแขนง ได้แก่ ดาราศาสตร์คณิตศาสตร์ และชีววิทยา และการออกแบบประดิษฐกรรมใหม่หลายอย่าง  เช่น เฮลิคอปเตอร์ เรือดำน้ำ เป็นต้น

ด้วยความสามารถทางด้านศิลปะของเลโอนาร์โด ทำให้เขาวาดภาพเหมือนของโครงสร้างต่าง ๆ ของมนุษย์ สัตว์ และพืช
ได้อย่างเหมือนจริง ซึ่งเป็นประโยชน์ในการศึกษามาก ซึ่งผลงานของเขาคือ

  • ศึกษาเกี่ยวกับโครงสร้างของมนุษย์
  • สร้างประตูน้ำแบบบากมุม 45 องศา (Mitre Lock Gate)
  • ออกแบบเครื่องมือหลายชนิด เช่น เฮลิคอปเตอร์ เรืองท้องแบน เรือดำน้ำ เครื่องแต่งกายมนุษย์กบและปืนกล
  • ประดิษฐ์เครื่องดนตรี 21 ชนิด ได้แก่ พิณ และ วิโอล่า
  • ประดิษฐ์ไฮโกรมิเตอร์
Albert Einstein (อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์)
Albert Einstein (อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์)

3. Albert Einstein (อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์) ไอคิวIQ 205 ถึง 225

เกิดเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ค.ศ.1879 ที่เมืองอูล์ม (Ulm) ประเทศเยอรมนี (Germany) ช่วงศตวรรษที่ 19-20 ไอน์สไตน์ถือว่าเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ขาคือผู้ยุติสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยระเบิดปรมาณูที่มีอนุภาคการทำลายล้างมหาสาร ไอน์สไตน์เป็นชาวเยอรมันแต่ก็มีเชื้อสายยิว เขาเป็นผู้เสนอทฤษฎีสัมพัทธภาพ และมีส่วนร่วมในการพัฒนากลศาสตร์ควอนตัม สถิติกลศาสตร์ และจักรวาลวิทยา

Johann Goethe (โยฮันน์ วอล์ฟกัง ฟอน เกอเทอ)
Johann Goethe (โยฮันน์ วอล์ฟกัง ฟอน เกอเทอ)

2. Johann Goethe (โยฮันน์ วอล์ฟกัง ฟอน เกอเทอ) :ไอคิว (IQ) 210 ถึง 225

เกอเทอ มีความสามารถหลายด้าน ทั้งด้านศิลปะ และวิทยาศาสตร์ เช่น เคมีในร่างกายมนุษย์ แต่ที่เด่นชัดที่สุดในตัวเขาเห็นจะเป็นเรื่องในด้าน การประพันธ์ บทละคร นักเขียนนิยาย นักสิทธิมนุษยชน นักเขียนบทละคร นักปรัชญา ซึ่งเกอเทอเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของวรรณคดีเยอรมัน

William Sidis (วิลเลียม เจมส์ ซิดิส)
William Sidis (วิลเลียม เจมส์ ซิดิส)

1. William Sidis (วิลเลียม เจมส์ ซิดิส) ไอคิว(IQ) 200-300

ไซดิส เป็นชาวรัสเซีย เกิดวัน April Fool’s Day หรือ 1 เมษายน ค.ศ.1898  สมาคมทางด้าน IQ ให้ฉายาว่า “Universal Genius” บุคคลที่ถือว่า “ฉลาดทีสุดในจักรวาล”

สามารถอ่านหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ได้ตั้งแต่อายุเพียงหนึ่งขวบครึ่ง และต่อมาสามารถเรียนรู้ภาษาละตินด้วยตนเองเมื่ออายุ 2 ขวบ พอ 3 ขวบก็เริ่มฝึกพิมพ์ดีด ด้วยการเขียนจดหมายสั่งของเล่นมาให้ตัวเอง! 8 ขวบเขียนหนังสือเสร็จไปสี่เล่ม รู้จักไปแล้วสิบภาษา 11 ขวบ เป็นผู้ที่เข้าศึกษาที่ harvard อายุน้อยที่สุด

 

 

และนี่คือทั้งหมดของ 10 อันดับมนุษย์ที่มีไอคิว(iQ)สูงที่สุดในโลก ซึ่งเท่าที่โลกเคยมีมา ทางแอดมินไม่ได้มีเจตนาเปรียบเทียบหรือเอนเอียงให้น้ำหนักบุคคลใดบุคคลหนึ่งแต่อย่างใดจึงจัดอันดับไว้เพื่อการศึกษาเท่านั้น

 

 

ติดต่อเราได้ที่นี่