ภาพรวมหัวข้อเนื้อหา
จัดอันดับรถซุปเปอร์คาร์ที่ดีที่สุดในโลก ปี 2019
ถ้าพูดถึงรถซุปเปอร์คาร์แล้วละก็ ทุกคนต้องนึกถึงเรื่องความเร็วเป็นหลักกันอย่างแน่นอน แต่สำหรับคนรักรถนั้นจะมีมุมมองกับรถที่แตกต่างออกไป รถซุปเปอร์คาร์มีเทคโนโลยีระดับสูงที่มาพร้อมกับความเร็ว ซุปเปอร์คาร์มีเสน่ห์ที่เย้ายวนในรูปลักษณ์เป็นอย่างมาก จึงเป็นรถยนต์ราคาแพงของเศรษฐีที่นิยมชื้อสะสม เพื่อแสดงให้เห็นถึงความร่ำรวยของตน
โดยสิ่งที่ 168asiatopten จะนำเสนอคือ 10 อันดับรถซุปเปอร์คาร์ที่ดีที่สุดในโลก 2019ซึ่งไม่ได้ตัดสินจากความเร็วหรือราคาแต่อย่างใดแต่ การจัดอันดับจะมองภาพรวมเสียมากกว่า
10. Vencer Sarthe (เวนเซอร์ ซาร์ธ)
เวนเซอร์ ซาร์ธ (Vencer Sarthe) รถซุปเปอร์คาร์ ที่ตัวถังทำมาจากคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งคัน สัญชาติ เนเธอร์แลนด์ ที่จัดเต็มในความหรูหราอย่างเต็มเปี่ยมสมเป็นรถระดับ ไฮเอ็นท์ ภายในหุ้มด้วยหนังอัลคันทารา ในห้องดดยสารดีไซน์เส้นสายโค้งมนสวยงามล้ำยุค มาตรวัดดิจิตอลอยู่กลางห้องโดยสารล้อหลังขนาด 20 นิ้ว หน้า 19 นิ้ว
รถน้ำหนัก 1,390 กิโลกรัม ทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.6 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 338 กม./ชม. ด้วยระบบขับเคลื่อนใช้เครื่องยนต์ V8 ขนาด 6,300 ซีซี วางกลางกำลัง 622 แรงม้า แรงบิดที่ 838 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ด้านระบบกันสะเทือนใช้แบบดับเบิลวิชโบนทั้งหน้าและหลัง เน้นความแน่นหนึบในการเข้าโค้งอย่างดี อีกทั้งยังออกแบบให้มีน้ำหนักด้านหน้า 45% น้ำหนักด้านหลัง 55% ซึ่งราคา เวนเซอร์ ซาร์ธ อยู่ที่ 270,882 ยูโร (ประมาณ 11.2 ล้านบาท)
9. Spyker C8 Aileron
Spyker C8 Aileron เปิดตัวครั้งแรกในปี 2008 โดยบริษัท spyker เป็นบริษัทชั้นยอดในเรื่องวิศวกรรมผลิตอากาศยานในช่วงสงครามโลก C8 Aileron มีโครงสร้างทำจากอลูมิเนียมสเปซเฟรม เครื่องยนต์มีกำลัง 395 แรงม้าที่ไม่รุนแรงและไม่สิ้นเปลืองน้ำมันมากหนัก แต่จะมีเสน่ห์จากเสียงของเครื่องยนต์ V8 ปริมาตรความจุ 4.2 ลิตร แรงบิด 480 นิวตัน-เมตร เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรใน 4.6 วินาที ความเร็วปลายที่ 186 ไมล์ต่อชั่วโมง ระบบส่งกำลังแบบ 6 สปีด น้ำหนัก 1,425 กิโลกรัม โดยห้องโดยสารของรถจะเป็นจุดขายสำคัญที่น่าดึงดูด ถ้าคุณต้องการที่จะแตกต่างกันและออกไปจากทางเลือกที่เห็นได้ชัดแม้กระทั่งในรถหรูขนาดกลางที่มีกำลังมหาศาลคุณจะชอบมัน
8. Tushek Renovatio T500
Tushek Renovatio ของประเทศสโลเวเนียเป็นอีกหนึ่งการสร้างที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักและไม่ค่อยค่อยมีใครกล้าพอที่จะซื้อเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งของสถานะ และนั่นอาจเป็นผลดีจากเจ้าของ Tushek เจ้าของ Aljosa Tusek ผู้ที่ต้องการจะให้ความสำคัญกับการขับขี่อย่างต่อเนื่องทุกวันอย่างจริงจังและรถยนต์ของเขาทำให้เห็นได้ชัดเจนที่สุด
ตัวถังผลิตจาก Carbonfibre spaceframe สร้างด้วยเบรคคาร์บอนเซรามิก, T500 น้ำหนักน้อยกว่า 1100 กิโลกรัม และขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ออดี้ 4.2 V4 ขนาด 444 แรงม้า ซึ่งไม่ใช่รถที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความคิดที่ต้องการที่สุดแห่งความเร็ว มากกว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการจริงๆ
7. Noble M600
ซุปเปอร์คาร์แบบพิเศษที่มีกำลังที่ไม่มากจนเกินไปเป็นรถของอังกฤษ ระบบขับเคลื่อนล้อหลังป้องกันล้อล็อกหรืออุปกรณ์ช่วยขับด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่มีมาให้ คือรถยนต์ประสิทธิภาพของ Noble ให้มีความดิบโดยตรง คุณความตื่นเต้นกับการมีส่วนร่วม เครื่องยนต์ turbo V8 ขนาด 650 แรงม้า มีศักยภาพเพียงพอที่จะทำให้เครื่องยนต์และแรงบิดของเครื่องยนต์ดีขึ้น ราคาก็อยู่ที่ 300,000 ปอนด์
6. Gumpert Apollo
อาจมาจากชื่อแบรนด์ที่คุณคาดหวังว่าจะได้รับแต่ Apollo มีวิธีการอย่างประณีตเพื่อการสร้างงานด้านวิศวกรรม เราขับรถไปในปีพ. ศ. 2548 และได้รับความนิยมอย่างมากจากกลุ่มผู้หลงไหล ในขณะที่การทดสอบของรถเกียร์ธรรมดา 6 สปีด จาก 0-62 mph ใน 3.1 วินาที และความเร็วสูงสุด 224mph
5. Lamborghini Aventador (ลัมโบร์กีนี อะเวนตาโดร์)
ลัมโบร์กินีอเวนทาดอร์ ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ V12 6.5 ลิตร ให้กำลังแรงสุดถึง 750 แรงม้า ที่ 8,400 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ และมีน้ำหนักน้ำหนักลดลงถึง 50 กิโลกรัม ตัวถังผลิตจาก คาร์บอนไฟเบอร์ทั้งคัน ออกแบบรูปทรงให้มีการแหวกอากาศ Aerodynamic ได้ยอดเยี่ยมตามหลักอากาศพลศาสตร์ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 2.8 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 350 กม./ชม.
4. McLaren 720S
McLaren 720S ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ M480T Twin Turbo V8 Engine แบบ 4 ลิตร ผลิตในประเทศอังกฤษโดยโรงงานผู้ผลิตของแมคลาเรน มีสมรรถนะที่แรงเหนือชั้นและการผสานการขับขี่ให้เป็นหนึ่งเดียวกับนักขับอย่างชาญฉลาด เทียบเท่ากับรถยนต์ Hypercar ในราคาระดับ Supercar นำเสนอดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงของฉลาม สมรรถนะที่เหนือชั้นโดยสามารถเร่งความเร็วจากหยุดนิ่งถึง 100 กม./ชม. (62 ไมล์/ชม.) ได้ภายในเวลาไม่ถึง 3 วินาที และอีก 5 วินาทีต่อมาจะเร่งได้เร็วกว่า 200 กม./ชม. (124 ไมล์/ชม.) โดยสามารถทำความเร็วสูงสุดถึง 341 กม./ชม. และใช้ระยะทางเพียง 117 เมตร จากความเร็ว 200 กม./ชม. จนหยุดนิ่ง ประหยัดพลังงานได้อย่างดีเยี่ยม กินน้ำมันเพียง 10.7 ลิตร/กม. และปล่อยไอเสีย 249 กรัม/กม. ตามมาตรฐานของ New European Driving Cycle (NEDC)
3. Ferrari 488 GTB
เฟอร์รารี่ 488 GTB มาพร้อมเครื่องยนต์ v8 วางกลาง ให้กำลัง 670 แรงม้า ที่ 8,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 760 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0 ถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายในเวลา 8.3 วินาที นวัตกรรมล่ำสมัย ให้ประสิทธิภาพสูงสุดกับการขับเคลื่อนอย่างเต็มที่ในชีวิตประจำวัน ด้วยความมีเอกลักษณ์ของ Ferrari ราคาอยู่ที่ 600,000 ยูโร หรือ 24 ล้านบาท
2. Ford GT
เป็นรถซุปเปอร์คาร์อีกหนึ่งคันที่ค่อนข้างขายดี จากสถิติยออดจองกว่า 7000 ราย ถือว่าสูงมากที่มีความต้องการขนาดนี้ Ford GT 2017 นั้นถือเป็นซูเปอร์คาร์สมรรถนะสูงของ Ford ที่มีความใกล้เคียงกับรถแข่งมากที่สุดคันหนึ่ง ด้วยใช้เครื่องยนต์เบนซิน EcoBoost V6 ขนาดความจุ 3.5 ลิตร ให้กำลังที่ 647 แรงม้า ซึ่งมีราคากว่า 450,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 15 ล้านบาท
1. Lamborghini Huracán (ลัมโบร์กินี ฮูราคัน)
Huracán นั้นมีแนวทางในการออกแบบที่ต่างจากพี่ชายอย่าง Aventador V12 โดยที่จะลดทอนความดิบของตัวรถลง เครื่องยนต์รอบจัดเสียงหวานของ Huracan วางอยู่ตรงกลางลำของบอดี้รถ เบนซิน V10 ลูกสูบทำมุม 90 องศา 40 วาล์วไร้ระบบอัดอากาศ ความจุกระบอกสูบ 5.2 ลิตร (5,204 ซี.ซี.) ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงมี 2 ระบบทำงาน
คู่กันทั้งแบบหัวฉีด Direct Injection และหัวฉีดปกติ ในรุ่น LP610-4 และ LP610-4 Spyder จะมีแรงม้าสูงสุด 610 แรงม้า (HP) ที่ 8,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 560 นิวตัน-เมตรที่ 6,500 รอบต่อนาที (แรงบิด 420 นิวตัน-เมตรมีให้ใช้ตั้งแต่ 1,000 รอบต่อนาทีเลยทีเดียว) เลือกขับ 3 รุ่น ได้แก่ Huracán LP580-2 ราคา 22.8 ล้านบาท Huracán LP610-4 ราคา 24.8 ล้านบาท และ Huracán LP610-4 Spyder ราคา 26.8 ล้านบาท
และทั้งหมดนี้คือ 10 อันดับรถซุปเปอร์คาร์ที่ดีที่สุดในโลก (2019) ที่อาจจะมองภาพโดยรวมของรถโดยไม่มีเจตนาเอนเอียงแต่ประการใด
