ปัจจุบันธุรกิจอาหารเครื่องดื่มเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักธุรกิจ โดยเฉพาะการซื้อแฟรนไชส์ร้านกาแฟแบรนด์ดังที่มีคนรู้จักดีอยู่แล้วมาเปิดในพื้นที่ของตัวเอง ยิ่งสร้างกำไรให้เจ้าของเป็นอย่างมาก สำหรับใครที่กำลังมองหาข้อมูลแฟรนไชส์ร้านกาแฟแบรนด์ดังกันอยู่ วันนี้เรามีข้อมูลของร้านกาแฟแต่ละแบรนด์มาแนะนำกัน เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์ได้ง่ายขึ้น
1. Café Amazon
ร้านกาแฟที่มีทุกปั๊มน้ำมันปตท. เพราะ Café Amazon เป็นแฟรนไชส์กาแฟของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เริ่มจากเปิดให้บริการในปั๊มน้ำมันปตท.ก่อนที่จะขยายสาขาไปตามสถานที่ต่างๆทั่วประเทศ ธีมร้านเน้นโทนสีเขียว แนวธรรมชาติ มีเครื่องดื่มต่างๆให้บริการทั้งกาแฟ ชา นม สมูทตี้ และขนมต่างๆ
สำหรับการลงทุนแฟรนไชส์ Café Amazon ถ้าเป็นร้านในอาคารจะใช้ทุนอยู่ที่ 2,349,000 – 3,709,000 บาท (ไม่รวม VAT) ร้านนอกอาคารใช้ทุนรวม 2,649,000 – 4,209,000 บาท (ไม่รวม VAT) รู้ผลพิจารณาภายใน 90 วัน และมีสัญญาแฟรนไชส์ทั้งหมด 6 ปี
2. Black Canyon
อีกหนึ่งแฟรนไชส์ร้านกาแฟที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดี ร้านจะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ รูปแบบภัตตาคารร้านอาหารที่จำหน่ายทั้งกาแฟ เครื่องดื่มและอาหารต่างๆ กับรูปแบบร้านกาแฟที่จำหน่ายเฉพาะกาแฟ เครื่องดื่ม และเบเกอรี่เท่านั้น
สำหรับการลงทุนแฟรนไชส์ มี 3 รูปแบบ ได้แก่ แบบ Mini-Coffee House มีค่าแฟรนไชส์ 1,000,000 บาท ค่าประกันความเสียหายและหนี้สิน 300,000 บาท, แบบ Full-Service Coffee House มีค่าแฟรนไชส์ 1,200,000 บาท ค่าประกันความเสียหายและหนี้สิน 300,000 บาท และแบบ Coffee Corner / KIOSK & Gelatoni มีค่าแฟรนไชส์ 600,000 บาท ค่าประกันความเสียหายและหนี้สิน 250,000 บาท ระยะสัญญา 10 ปี และต่ออายุได้อีกทุกๆ 5 ปี
3. กาแฟพันธุ์ไทย
กาแฟที่เน้นความมีเสน่ห์ของเอกลักษณ์ไทยผสมผสานกับความสมัยใหม่แต่เรียบง่ายได้อย่างลงตัว มีสโลแกนว่า “เข้ม เท่ จริงใจ แบบไทยแท้ๆ” มีสัญลักษณ์เป็นรูปช้าง ส่วนใหญ่จะมีสาขาอยู่ที่ปั๊มน้ำมัน PT ให้ผู้ที่ใช้รถใช้ถนนได้มาแวะพักจิบกาแฟชิวๆก่อนเดินทางไกล
สำหรับการลงทุนแฟรนไชส์จะใช้งบลงทุนประมาณ 1,000,000-5,000,000 บาท และเก็บค่าธรรมเนียมแรกเข้า 480,000 บาท
4. กาแฟมวลชน
กาแฟจากบริษัทซีพี รีเทลลิงค์ จำกัด ที่มุ่งเน้นการทำธุรกิจร้านกาแฟเพื่อสร้างอาชีพให้กับสังคมและชุมชน แฟรนไชส์ร้านกาแฟมวลชนจะเน้นให้ความรู้ด้านการบริหารงานร้าน และปฎิบัติงานจริงให้กับคนที่ซื้อแฟรนไชส์
ราคาแฟรนไชส์ของกาแฟมวลชนมี 4 แพ็คเกจให้เลือก ได้แก่ Special size ราคาเริ่มต้น 255,000 บาท, Type S ราคาเริ่มต้น 470,000 บาท, Type M ราคาเริ่มต้น 655,000 บาท และ Type L ราคาเริ่มต้น 845,000 บาท
5. กาแฟชาวดอย
จุดเด่นของกาแฟชาวดอยคือ เลือกใช้เมล็ดกาแฟและวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ทำให้กาแฟชาวดอยมีกลิ่นหอมและรสชาติเข้มข้น นอกจากกาแฟแล้วยังมีเครื่องดื่มอื่นๆให้บริการอีกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นชา, นม, ชาไข่มุก สมูทตี้ และเครื่องดื่มอื่นๆ
ส่วนราคาแฟรนไชส์ของกาแฟชาวดอยมีให้เลือก 3 ขนาด ได้แก่ ขนาด S มีค่าโครงสร้าง 300,000 บาท ค่าชุดธุรกิจ 430,000 บาท (รวม VAT), ขนาด M มีค่าโครงสร้าง 600,000 บาท ค่าชุดธุรกิจ 430,000 บาท (รวม VAT) และขนาด L มีค่าโครงสร้าง 1,200,000 บาท และค่าชุดธุรกิจ 430,000 บาท (รวม VAT)
6. กาแฟอินทนิล
แฟรนไชส์กาแฟในเครือปั๊มน้ำมันบางจากที่มีการใช้วัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยม เมล็ดกาแฟ Arabica 100% เสริ์ฟผ่านบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก พลาสติกชีวภาพที่สามารถย่อยสลายได้ กาแฟอินทนิลมีคอนเซ็ปต์ Natural & Relaxing โดยใช้ต้นอินทนิลเป็นสัญลักษณ์ สื่อถึงความร่มรื่นและธรรมชาติ
แฟรนไชส์ร้านกาแฟอินทนิลจะใช้งบประมาณในการลงทุนทั้งค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าก่อสร้างประมาณ 1,500,000 – 3,000,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นที่และรูปแบบของร้าน
7. Coffee World
ร้านกาแฟระดับพรีเมี่ยมที่พบบ่อยตามห้างสรรพสินค้า ใส่ใจในการเลือกวัตถุดิบ มีการใช้วัตถุดิบสดใหม่มาเป็นเครื่องดื่มแทนการใช้ส่วนผสมสำเร็จรูป มีทั้งเมนูเครื่องดื่มและของหวานให้ลูกค้าได้เลือกอย่างหลากหลาย
ส่วนการลงทุนแฟรนไชส์ ถ้าเป็นร้านในอาคาร รวมการลงทุนทั้งหมดจะอยู่ที่ 2,420,000 บาท (ไม่รวม VAT) ร้านนอกอาคาร รวมการลงทุนทั้งหมดจะอยู่ที่ 3,070,000 บาท (ไม่รวม VAT)
8. กาแฟดอยช้าง
กาแฟดอยช้างเลือกสรรแต่วัตถุดิบคุณภาพดีจากหมู่บ้านดอยช้าง จังหวัดเชียงราย เน้นการตกแต่งร้านในแนววัฒนธรรมชนเผ่า สไตล์โมเดิร์น ทันสมัย หากซื้อแฟรนไชส์จากที่นี่ก็จะมีทีมงานมืออาชีพให้คำแนะนำที่ถูกต้อง เหมาะสม มีการฝึกอบรมพนักงานให้ และจัดหา ส่งมอบวัตถุดิบคุณภาพดีให้แก่แฟรนไชส์
การลงทุนกาแฟดอยช้างมี 2 รูปแบบ ได้แก่ รูปแบบ Coffee avenue พื้นที่ 30 – 100 ตร.ม. ประมาณการลงทุนรวมเริ่มต้น 1,700,000 บาท, ร้าน Stand alone พื้นที่ 60 – 130 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2,300,000 บาท
9. True Coffee
ร้านกาแฟจากบริษัท True Corporation ที่ตอบโจทย์คนสมัยใหม่ในการนั่งทำงานข้างนอก ด้วยการมีเครื่องดื่มและขนมหวานบริการ นอกจากนี้ยังมี Wifi ความเร็วสูงให้บริการด้วย
ค่าแฟรนไชส์แรกเข้าอยู่ที่ประมาณ 500,000 บาท ใช้งบลงทุนรวมประมาณ 2,000,000 – 5,000,000 บาท มีอายุสัญญา 6 ปี
10. D’ORO
ร้านกาแฟ D’ORO เน้นการเปิดสาขาตามแหล่งชุมชนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปั๊มน้ำมัน, โรงพยาบาล, อาคารสำนักงาน และสถานศึกษา มีบริการทั้งเครื่องดื่มกาแฟ ชา โกโก้ และสมูทตี้ รวมทั้งเบเกอรี่และอาหารว่าง เรียกว่าครบครัน เหมาะสำหรับนั่งพักผ่อนชิวๆเป็นอย่างมาก
ในการลงทุนแฟรนไชส์ D’ORO หากเป็นร้านภายในอาคาร จะใช้งบลงทุนรวมประมาณ 1,600,000 – 2,100,000 บาท แต่หากเป็นร้านภายนอกอาคาร จะใช้งบลงทุนรวมประมาณ 2,900,000 – 3,900,000 บาท อายุสัญญา 5+5 ปี
อย่างไรก็ดีการลงทุนทุกอย่างย่อมมีความเสี่ยง ดังนั้นนักลงทุนควรศึกษาหาข้อมูลและดูรายละเอียดให้ดีก่อนเซ็นสัญญาการลงทุนค่ะ
