เมืองสุดลึกลับที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนมามันมีอยู่จริง บนพื้นดินในยุค ปัจจุบันคงมีน้อยที่ ที่เรายังเข้าไม่ถึง
ด้วยเทคโนโลยีมากมายทำให้เราสามารถเข้าไปถึงที่ต่างๆที่อัตรายได้แบบง่ายดาย แต่ในทางกลับกันอาจจะยังเหลือดินแดนลับแลอีกหลายที่สำหรับมนุษย์แต่ไม่ว่าเหตุผลอะไรก็แลแต่ วันนี้ทางเราขอเสนอ 10 เมืองโบราณทั่วโลก ที่คุณควรได้รู้จัก
1. LION CITY,CHINA
หรือเรียกอีกชื่อว่า “เมืองสิงโต” จมดิ่งลึกลงไปในทะเลสาปเฉียนเต่าประมาณ 40 เมตร ถือว่าเป็นเป้าหมายของนักประดาน้ำทั่วโลกเพราะความลึกลับและความงดงามของสถาปัตยกรรมที่ถือได้ว่างดงามระดับโลก เมืองซื่อเฉิงมีอายุมากกว่า 1,900 ปี และกลายเป็นนครเมืองบาดาลกว่า 60 ปีเนื่องจากถูกน้ำท่วมจากการสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำซินอัน
2. BAIAE ITALY
ก่อนที่จะกลายมาเป็นเมืองใต้น้ำ Baiae นั่นเคยเป็นเมืองของการพักผ่อนหย่อนใจของเหล่าเศรษฐี หรือแม้แต่ผู้มีชื่อเสียงมาก่อน เปรียบเหมือนสนามเด็กเล่นของคนรวยสมัยนั้นเลยก็ว่าได้ ดูจากซากอารยธรรมโบราณ หรือแม้แต่รูปปั้นตัวละครต่างๆ ของเทพนิยายกรีกโรมัน
แต่แล้วเมือง Baiae ต้องเผชิญกับระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายเมืองทั้งเมืองก็ได้จมหายไป ราวๆเมื่อ 1,500 ปีก่อน และไตอนนี้ได้กลายเป็นเมืองใต้น้ำที่น่าสนใจสำหรับนักประดาน้ำทั่วโลกที่ต้องการดำดิ่งลงไปย้อนชมอดีตกว่า 1,000 ปีก่อน
3. CLEOPATRA EGYPT
ประเทศอียิปต์ มีโบราณสถานที่หลายคนเชื่อกันว่าเป็นพระราชวังของนางคลีโอพัตรา ราชินีผู้ทรงเสน่ห์แห่งอียิปต์ โดยพระราชวังแห่งนี้เคยเป็นเศษส่วนหนึ่งของเมืองในสมัยนั้นหรือเมื่อประมาณ 2,000 ปีก่อน แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อ 1,500 ปีก่อน ทำให้บริเวณเมืองส่วนนี้ได้จมลงสู่ก้นทะเล
4. PORT ROYAL JAMAICA
ที่นี่เคยเป็นเมืองท่าของโจรสลัด ที่ใช้เป็นฐานสำหรับโจมตีเรือสมบัติสเปน ซึ่งปกครองโดย Henry Morgan โดยในยุคนั้น เมืองแห่งนี้เต็มไปด้วยสิ่งอบายมุข สิ่งผิดกฎหมายรวมไปถึงโสเภณี และการพนัน เมืองนี้เคยเกิดภัยทางธรรมชาติที่ร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในโลก
ในปี ค.ศ.1692 เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงก่อให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันทีกว่า 2,000 คน ด้วยเหตุนี้บางส่วนของเมืองจึงจมลงสู่ใต้น้ำทันทีถึงแม้ว่าปัจจุบันที่นี่เป็นแค่เพียงท่าเรือเล็กๆริมชายฝั่งแต่ความน่าสนใจ ก็ดึงดูดใจเหล่านักประดาน้ำทั่วโลกที่ชอบเรื่องราวของโจรสลัดให้มาเมืองนี้ได้ไม่ยาก!
5. DWARKA INDIA
โบราณสถานใต้น้ำของประเทศ India ที่ต้องดำลงไปถึง 40 เมตร ชาวฮินดูเชื่อว่าเมืองทวารกานี้ถูกสร้างขึ้นโดยพระเจ้ากฤษณะ ซึ่งเป็นร่างอวตารร่างหนึ่งของพระนารายณ์ ที่นี่เป็นหนี่งในเจ็ดเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศอินเดีย ความสวยงามด้วยรูปทรงเลขาคณิตสร้างความอัศจรรย์ใจให้กับนักโบราณคดีเป็นอย่างมาก
ว่ากันว่าเมืองที่สวยงามแห่งนี้ประกอบไปด้วยพระราชวังถึง 70,000 แห่ง! สร้างจากทองคำ เงิน และโลหะที่มีค่าชนิดอื่นๆ นับว่าเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากเลยทีเดียว มีการคาดเดาว่าเมืองแห่งนี้ได้จมลงสู่ใต้ท้องทะเลหลังการตายของพระเจ้ากฤษณะ เรียกได้ว่าที่นีเป็นเมืองในตำนานที่ชาวฮินดูทุกคนควรไปสักการะสักครั้งจริงๆของสิ่งที่จมอยู่ใต้น้ำ
6. THE PYRAMIDS OF YONAGUNI-JIMA JAPAN
ปิรามิดลึกลับในประเทศญี่ปุ่น ทุกวันนี้ยังคงถกเถียงกันอยู่ว่าปิรามิดแห่งนี้เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ หรือเป็นฝีมือของมนุษย์สรรค์กันแน่! ปิรามิดที่อยู่ใต้ชายฝั่งของญี่ปุ่นนี้ คาดว่ามีอายุประมาณ 12,000 ปี นี่อาจจะเป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้
โดยปิรามิดมีความสูงจากฐานถึงยอดราว 27 เมตร ชั้นบนสุดจะอยู่ห่างจากน้ำทะเล 5 เมตร ถูกค้นพบเมื่อ 40 ปีที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งปิรามิดจะมีลักษณะคล้ายกับที่มีการค้นพบในเม็กซิโก และ อเมริกากลาง นี่ทำให้ดูดใจเหล่านักประดาน้ำทั่วโลกให้มายลโฉมปิรามิดในเมืองบาดาลดูซักครั้ง
7. Phanagoria Russia
อาณาจักรนี้เมื่อก่อนเป็นแค่เรื่องเล่าเก่าแก่ของชาวโรมันม ว่าในช่วง 63 ปีก่อนคริสตกาล ที่นี่เคยเกิดเหตุจราจลครั้งใหญ่ ประชาชนที่โกรธแค้นต่างลุกขึ้นเผาทำลายเมืองจนราบ ส่วนซากเมืองนี้ถูกค้นพบอยู้ใต้ทะเลดำ เขตของประเทศรัสเซีย แม้จะกู้ขึ้นมาได้บางส่วน แต่ซากเมืองโบราณกว่า 1 ใน 3 ก็ยังจมอยู่ในทะเลดำ ซึ่งส่วนใหญ่ถูกฝังอยู่ใต้ผืนทรายเป็นการยากต่อการขุดขึ้นมา ที่นี่ได้รับการขนานนามอีกชื่อว่า แอตแลนติสแห่งรัสเซีย
8. The Mulifanua Site Samoa Island
พื้นที่บริเวรนี้เชื่อว่าเคยมีผู้อาศัยของชาว Lapita ซึ่งเชื่อว่าเป็นกลุ่มของผู้ตั่งรกรากที่อพยพมาจากแถบไต้หวัน แถบเอเชียตะวันออกในช่วง 2,000 ปีก่อนคริสตกาล มีการขุดค้นพบถ้วยโถโอชามกว่า 4,000 ชิ้น จึงเชื่อได้ว่าบริเวรแถบนี้อาจเคยเป็นที่อาศัยของมนุษย์มาก่อน
9. Titicaca Bolivia / Peru
เมืองโบราณที่ถูกพบโดยความบังเอิญในขณะที่กำลังมีการสำรวจสภาพของน้ำในอ่าว Cambay ช่วงประมาณปี 2002 เมืองโบราณนี้อยู่ลึกลงไป 40 เมตร มีอายุประมาณ 4,000-5,000 ปีแลยทีเดียว เมืองนี้ถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีอารยธรรมก้าวหน้ามากๆ ในยุคนั้น มีการสร้างระบบชลประทาน ท่าเรือ ถนน ฯลฯ ปัจจุบันการสำรวจที่นี่ทำได้ลำบากกว่าเดิมเพราะปริมาณน้ำที่สูงขึ้นในทุกๆ ปี
10. Atlit-Yam Israel
เป็นชื่อที่ใช้เรียกกองหินโบราณที่ถูกพบอยู่ตามแนวของอ่าว Carmel หลายๆคนเชื่อกันว่ามันถูกตั้งไว้เพื่อเป็นบ่อน้ำโบราณ และเป็นแท่นบูชาวิญญาณแห่งวารี อายุของแท่งหินเหล่านี้มีมากกว่า 7,000 ปีแล้ว สิ่งที่ต่างจากเมืองโบราณของที่อื่นๆ ก็คือบริเวณรอบๆ แท่งหินนี้ค้นพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณกว่า 65 ชีวิต และจากผลการพิสูจน์พบว่าทุกๆ คนล้วนเสียชีวิตเพราะวัณโรค
อาจจะยังมีเมืองโบราณอีกหลายที่ ที่มนุษย์แบบเรายังตามหาไม่เจอ เมืองที่พูดถึงไปด้านบนเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น รอบหน้าเราจะเอาอะไรมาให้ท่านอ่าน คอยติดตามกันด้วยนะคะ
